หลายคนที่เป็น นศ.ระดับปริญญาเอก มักมีคำถามว่า การทำดุษฎีนิพนธ์ (Dissertation) ที่ผู้เขียนเรียกว่าการเขียนความรู้ใหม่ ทำกันแบบไหนจึงจะเรียกว่าเป็นงานพอสมศักดิ์ศรีของการเรียนระดับปริญญาเอก
เนื่องจากการเรียนในระดับนี้เป็นการศึกษาในระดับสูงสุด ดังนั้น นศ.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสามารถสร้างความรู้ใหม่ได้
หากพิจารณาอย่างไม่ยากนัก พอจะมีแนวทางให้ผู้เรียนระดับ ป.เอก ได้ 3 แนวทางดังนี้
1. ระดับความยาก (Level of Difficult) ของงานวิจัยหรือ ดุษฎีนิพนธ์ คำว่ายากในที่นี้ไม่ใช่
-การใช้สถิติที่ยาก เช่น การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (CFA) จากโปรแกรมสำเร็จรูป
-เป็นงานศึกษาทาง วิศวกรรมศาสตร์ หรือ การเป็นวิชาชีพที่มีความเฉพาะ เช่นนักบินรบนักการเมืองในประเทศกำลังพัฒนา (เป็นงานยากเนื่องจากต้องให้ ความสุขช่ั่วคราวกับประชาชนตลอดเวลา เช่น สัญญาแจกเงิน )
- นศ. บางคน บอก ผมใช้การเก็บขัอมูลด้วยวิธีที่ยาก ใช้ LISREL Mplus ก็ยากแล้ว
แต่ความยากในที่นี้เป็น ความยากในการใช้หลายองค์ความรู้ หรือ บูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge) ยากในการใช้หลาย ๆ วิธีการวิจัย ยากในการกำหนดกรอบความคิดที่เฉพาะเจาะจง ต้องลงไป จัดทำด้วย ทฤษฎีจากฐานราก (Grounded theory)
2. ระดับลุ่มลึก (Level of Mastery) ผู้เขียนอาจจะเรียกว่า เป็นการศึกษาลงลึกใน องค์ความรู้ใดความรู้หนึ่ง คล้าย In-depth specialist เพื่อ เปิดพรมแดนใหม่แห่งความรู้ พัฒนาวิธีวิทยาการใหม่ พัฒนาเครื่องมือใหม่ทางการบริหารองค์กร ศึกษาสิ่งตรงกันข้ามกับความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
3.ระดับผลกระทบ (Level of Impact) หมายถึง เป็นการศึกษาในระดับที่กว้าง คลุมใหญ่ขึ้นและส่งผลกระทบสูงต่อสาขาวิชาชีพ ชุมชน ประเทศ หรือ สังคมโลก หรือ อาจสามารถนำไปสู่ การใช้ได้อย่างกว้างขวาง (Generalization)
ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านงานวิจัยระดับปริญญาเอกชิ้นหนึ่ง เรื่ององค์ประกอบและตัวบ่งชี้้การบริหารเครือข่าย รร.คริสเตียน สังกัดมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ 2 ข้อ ศึกษาองค์ประกอบการบริหารเครือข่าย ของ รร.ดังกล่าว และ พัฒนาตัวบ่งชี้องค์ประกอบการบริหารเครือข่ายของ รร.ดังกล่าว (วารสารวิชาการ วารสารเซนต์จอห์น สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีที่ 16 ฉ.19 ก.ค. -ธ.ค. 56 หน้า 22-23)
หากลองว่า ตามหลักเกณฑ์ข้างต้น ก็ต้องทำการศึกษาและตีความจากตัวเล่มสมบูรณ์เพราะในบทความ ไม่ได้อธิบายจนสามารถจะหยิบเกณฑ์ มาพิจารณาได้
ผู้เขียนมีคำแนะนำให้ ผู้ที่กำลังเรียนระดับปริญญาเอก และปวดหัวกับหัวข้อวิจัยว่าจะทำวิจัยได้หรือไม่ได้ ถึงระดับปริญญาเอก หรือไม่ หรือกระหยิ่มยิ้มย่องว่าใช้สถิติขั้นสูงเทียมเมฆแล้ว เป็นงานวิจัยถึงระดับนี้ อาจคว่ำข้าวเม่าก็ได้ครับ
อย่างแรก พิจารณาตาม 3 แนวทางข้างต้น และ อย่างที่สอง อ่านงานวิจัย ป.เอกเยอะๆ และอย่างที่ 3 การทำวิจัยแบบ R& D ดีกว่า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาอิสระ
รางวัลนักทรัพยากรมนุษย์ดีเด่นแห่งประเทศไทย ปี 2552 ประเภทนักวิชาการและที่ปรึกษา
ผู้อำนวยการโครงการ Human Capital
ผู้อำนวยการโครงการ Human Capital
วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า