สถานการณ์การแข่งขัน ค้าปลีก ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จากแนวโน้มภาพรวมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในครึ่งหลังปี 2551 ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่คาดว่าจะส่งผลกระทบเด่นชัดมากกว่าปัจจัยบวก กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดยเฉพาะปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่คาดว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ยิ่งซ้ำเติมบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เป็นไปในทิศทางชะลอตัวลงอยู่แล้วจากปัจจัยทางเศรษฐกิจให้มีแนวโน้มชะลอตัวเด่นชัดมากขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงครึ่งหลังปี 2551 น่าจะเป็นไปอย่างระมัดระวังไม่แตกต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ หรืออาจจะชะลอตัวแรงกว่าที่คาด หากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองยังคงยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปี และอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบในแง่ลบต่อธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมากขึ้นเป็นทวีคูณ จากการชะลอการจับจ่ายใช้สอยของทั้งจากผู้ซื้อชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้การแข่งขันของตลาดค้าส่งค้าปลีกในครึ่งหลังปี 2551 น่าจะทวีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหวังที่จะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างให้ได้มากที่สุด ดังรายละเอียดต่อไปนี้ - ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า ภาวการณ์ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ และความไม่มั่นคงทางการเมือง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมืองค่อนข้างจะได้รับผลกระทบพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง แต่หากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบน ยังน่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าย่านชานเมืองอาจจะมีโอกาสเติบโตได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการแข่งขันน้อยกว่า ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันมานิยมจับจ่ายในทำเลใกล้บ้านมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการนำเสนอสินค้าที่ทันสมัย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โดดเด่น เพื่อจูงใจผู้บริโภคที่อาจจะหันไปให้ความสำคัญกับการจับจ่ายสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น และลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลงไปพอสมควร ส่วนสถานการณ์ของห้างสรรพสินค้าในต่างจังหวัดนั้น คาดว่า จากการที่แรงงานภาคการเกษตรเคลื่อนย้ายสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคงขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อในต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากผลผลิตสินค้าเกษตรที่ได้ราคาดี ทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดจำนวนไม่น้อยมีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตไปสู่ชีวิตที่ทันสมัย และมีคุณภาพมากขึ้น ดังนั้น สินค้าที่จะสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีจึงต้องดูดี หรือก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่เนื่องด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงต่อกำลังซื้อ โดยเฉพาะภาระค่าใช้จ่ายทางด้านน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาสินค้าอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็อาจจะมีผลให้ห้างสรรพสินค้าในต่างจังหวัดต้องเปิดเกมรุกบุกหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ซึ่งห้างสรรพสินค้าจากส่วนกลางน่าจะมีความได้เปรียบเหนือห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น เพราะมีความชำนาญและความพร้อมในด้านทุนสำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากกว่า - คอมมูนิตี้มอลล์ เป็นรูปแบบธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากปี 2550 ที่ผ่านมา ปัจจุบันร้านค้าปลีกรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ได้ทยอยเปิดสาขาให้บริการรองรับความต้องการผู้บริโภคสมัยใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่ทั้งรูปแบบห้างสรรพสินค้า และดิสเคานท์สโตร์บางราย ด้วยการกระจายไปตามแหล่งที่อยู่อาศัย และย่านธุรกิจสำคัญหลายแห่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯและชานเมือง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ให้บริการสินค้าที่สามารถตอบสนองการใช้ในชีวิตประจำวัน และร้านค้าอื่นๆเพื่อให้บริการอย่างครบถ้วน ทั้งร้านอาหาร ร้านขายยา บางแห่งก็มีฟิตเนส และสปาขนาดย่อม เป็นต้นด้วย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป จึงนับเป็นคู่แข่งทางอ้อมที่ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าย่านใจกลางเมืองไม่ควรมองข้าม รวมถึงในทำเลหัวเมืองใหญ่ๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือชุมชนบ้านหลังที่สองของคนกรุงเทพฯด้วย - ดิสเคานท์สโตร์ คาดว่าเกมราคายังคงดุเดือด โดยมีความเป็นไปได้ว่าในครึ่งหลังปี 2551 กลุ่มดิสเคานท์สโตร์อาจจะมีการจัดโปรโมชั่นสินค้าราคาถูกให้เลือกซื้อค่อนข้างถี่มากขึ้น ภายใต้ชนิดของสินค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น จึงทำให้ไม่เฉพาะแต่ผู้บริโภคเท่านั้นที่จะนิยมหันไปใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางภาวะค่าครองชีพสูงเช่นปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงบรรดาร้านค้าปลีกขนาดเล็ก หรือร้านโชห่วยที่เคยสั่งซื้อสินค้าผ่านบรรดายี่ปั๊วรายเดิมๆ ด้วย และยิ่งในภาวะที่กำลังซื้อของประชาชนปรับตัวลดลง จนส่งผลกระทบต่อยอดขายปลีกภายในกิจการบางแห่ง ทำให้ผู้ประกอบการดิสเคานท์สโตร์บางรายมีแนวโน้มจะปรับรูปแบบการจำหน่ายสินค้าไปสู่การจำหน่ายส่ง หรือดำเนินการเจรจาโดยตรงกับร้านค้าปลีกในท้องถิ่นในสัดส่วนที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อบรรดายี่ปั๊ว หรือร้านค้าส่งท้องถิ่นโดยตรงอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันการสร้างความแตกต่าง และยกอิมเมจของตัวสินค้าจะมีบทบาทมากขึ้น ด้วยสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่มีการปรับยกระดับขึ้นเป็นสินค้าคุณภาพแข่งขันในตลาดพรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไปด้วย โดยคาดว่าจะครอบคลุมประเภทสินค้าในวงกว้างมากขึ้น จากเดิมที่เน้นสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องปรุงรส ชา กาแฟ ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม และแฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แต่ยังคงเน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคในภาวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น และต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด - ซูเปอร์มาร์เก็ตสแตนอโลน น่าจะเป็นไปในลักษณะทรงตัว เพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดไม่น้อยในปี 2551 จากจำนวนคู่แข่งทางอ้อมอย่างดิสเคานท์สโตร์ย่อส่วนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะตามตรอกซอกซอยต่างๆ ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตสแตนอโลนจำเป็นต้องเร่งปรับตัวโดยเฉพาะการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ทั้งในย่านชุมชนและย่านชานเมือง ซึ่งจะมีทั้งที่เป็นห้องแถว ร้านสแตนอโลน และร้านที่อยู่ในอาคารสำนักงาน รวมถึงอาจจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้มอลล์ซึ่งเป็นรูปแบบค้าปลีกสมัยใหม่ ที่มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ ด้วยแนวทางการพัฒนาที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนมากขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละทำเลที่ตั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการร้านที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ภายใต้สินค้าและบริการที่หลากหลายกว่าร้านสะดวกซื้อหรือร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์โดยทั่วไป ควบคู่กับการพยายามนำเสนอสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากขึ้น และสร้างความแตกต่างให้ได้มากที่สุด - คอนวีเนี่ยนสโตร์ มีแนวโน้มที่จะเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวของสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2551 และจะมุ่งไปสู่การเป็นร้านคอนวีเนี่ยน ฟู้ด ที่จำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานต่างๆอย่างชัดเจนมากขึ้น ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในด้านการบริการต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการชำระเงินต่างๆ เช่นสาธารณูปโภค หรือบัตรเครดิต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ประกอบการบางรายกำลังพยายามเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น ด้วยการบริการรับสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในภาวะราคาน้ำมันแพง ซึ่งการที่สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้หลากหลายมากขึ้น ก็ย่อมหมายถึงการสร้างโอกาสในการขายให้มีมากยิ่งขึ้นด้วย - ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือโชห่วย ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านโชห่วยในเมืองไทยหลายรายก็ได้เริ่มปรับตัวอย่างจริงจัง และชัดเจนมากขึ้นบ้างพอสมควร ภายใต้การบริหารงานของคนรุ่นใหม่ที่สืบทอดกิจการมาจากบรรพบุรุษที่เข้าใจถึงสถานการณ์ตลาด และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของภาวะการแข่งขัน ทั้งนี้ ก็เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มมากขึ้นให้ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงบรรยากาศภายในร้านให้สะอาด มีความสะดวกสบายต่อการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ควบคู่กับการบริหารต้นทุนให้ต่ำลงให้ได้มากที่สุด ด้วยการเน้นไปที่การหาซื้อสินค้าที่มีต้นทุนต่ำสุด หรือการเลือกซื้อสินค้าบางประเภทจากธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่โดยตรง ที่มีราคาถูกกว่าการสั่งจากผู้ผลิตหรือยี่ปั๊ว เพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคากับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ได้ รวมถึงการหันมาให้ความสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาลูกค้าหรือผู้บริโภคมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า(Customer Relationship Management : CRM) ที่เน้นการเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาใช้บริการร้านค้าใกล้บ้านอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอีกให้ได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันร้านค้าปลีกหรือซาปั๊วส่วนหนึ่งได้หันมาเป็นตัวกลางกระจายสินค้าระหว่างบรรดายี่ปั๊ว หรือซาปั๊ว กับ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ โดยกลุ่มผู้ค้าปลีกดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมปริมาณความต้องการสินค้าจากบรรดายี่ปั๊ว หรือซาปั๊วโดยเฉพาะในแถบต่างจังหวัด และติดต่อสั่งซื้อสินค้ากับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่โดยตรงตามปริมาณการสั่งซื้อดังกล่าว ซึ่งอาจจะได้รับส่วนลดหรือของแถมมากกว่าปกติ หรืออาจจะตระเวนซื้อสินค้าที่จัดรายการพิเศษ(Promotion) หรือ สินค้าราคาต่ำกว่าทุนจากธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ จากนั้นก็ดำเนินการบริการจัดส่งสินค้าถึงผู้สั่งซื้อแต่ละรายโดยตรง ซึ่งปัจจุบันกลุ่มซาปั๊วหรือร้านค้าปลีกขนาดเล็กจำนวนไม่น้อย ต่างเริ่มหันมาดำเนินการเป็นตัวกลางกระจายสินค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพราะได้ค่าตอบแทนทันทีหลังจากส่งสินค้า ส่วนธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ก็ได้ผลประโยชน์ระดับหนึ่ง เพราะสามารถระบายสินค้าได้ครั้งละจำนวนมากๆ นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับค่อนข้างดีจากร้านโชห่วยอีกด้วย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องสั่งสินค้าเป็นจำนวนมากต่อครั้ง และราคาสินค้ายังถูกกว่าการสั่งซื้อจากยี่ปั๊วด้วย อันส่งผลให้ร้านโชห่วยมีโอกาสในการแข่งขันทางด้านราคากับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ในระดับหนึ่ง ท่ามกลางกระแสการเปิดเกมรุกอย่างหนักของบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ ที่พยายามขยายตัวไปสู่ร้านค้าปลีกรูปแบบต่างๆ เพื่อครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างให้ได้มากที่สุด จาก กรุงเทพธุรกิจ 5 กันยายน พ.ศ. 2551 13:57:00 http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/05/news_291948.php |
ผุ้ดูแลเนื้อหา ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
Managing Director
DNTConsultants Co.,Ltd.
No comments:
Post a Comment