November 2, 2008

ขอ idea ธรรมเชิงการตลาด

เนื่องจากในแต่ละวันมีผู้ที่สอบถามและสนทนากับผู้เขียนผ่านทาง Blog และ email หรือ โทรศัพท์ขอคำแนะนำ ผม (ดร.ดนัย เทียนพุฒ ) เห็นว่าถ้านำคำถามที่ถามมา Post และตอบเสร็จอยู่ในแต่ละ Post น่าจะสนใจกว่าที่จะถามตอบตามแต่ละความคิดเห็น หรือ บางคนก็ไม่สดวก ที่จะลงทะเบียน เพราะต้องการเข้ามาอ่าน หรือ Update ตัวเอง ดูความเคลื่อนไหวของชาวเน็ต

@ สวัสดีค่ะ พี่ดนัย ก่อนอื่นหนูก็ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ หนูชื่อ สุมนา ค่ะ เป็นนักศึกษาปริญญาโท สาขา วิศวะกรรมและการบริหารงานก่อสร้าง ช่วงนี้เป็นช่วงของการเลือกหัวข้อที่จะทำ research ซึ่งต้องส่งภายในสิ้นเดือนนี้ โดยประกอบด้วย หัวข้อที่ทำ, ความเป็นมาและปัญหา, วัตถุประสงค์, สิ่งที่จะได้จากงานวิจัย etc. เริ่มต้นหนูเองก็ค้นหาโดยการถามตัวเองว่าสนใจเรื่องอะไร จากนั้นหางานวิจัยที่ผ่านมา และเอกสารความรู้ต่างๆมาศึกษา บทสรุปก็คือ หนูสนใจเรื่องเกี่ยวกับ การจัดการกลยุทธ, การประเมิณองค์กร, พวกKPI, BSC เป็นต้น แต่ว่าหนูเองยังจับจุดไม่ถูกว่า กระแสในงานอุตสาหกรรมการก่อสร้างตอนนี้ สนใจเรื่องอะไรและยังขาดอะไรอยู่ เลยไม่รู้ว่าจะวิจัยไปแนวไหนดี เพราะหนูเองไม่เคยเข้าไปทำงานจริงๆภายในองค์กร เลยไม่ทราบว่ามันมีสิ่งไหนบ้างที่เกี่ยวข้องและเป็นปัญหาในการทำงานจากการที่หนูอ่านงานวิจัยของพี่ ทำให้หนูเกิด idea ว่าอยากจะเอามาประยุกต์ทำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พวกบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นธุรกิจคล้ายๆงานอุตสาหกรรมทั่วๆไป ก็เลยอยากจะถามพี่ว่า ถ้าหากจะทำงานวิจัยเกี่ยวกับแนวที่ว่านี้ น่าจะวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไรดีคะsumana_cm@yahoo.co.th
ตอบ ผมเห็นว่าแนวทางที่เดินทาข้างต้นถูกต้องแล้วครับคือ-การอ่านหนังสือ หรือค้นคว้าในงานที่คิดว่าเป็นความสนใจจึงได้ข้อสรุปที่อยากทำวิจัย สิ่งที่ยังขาดอยู่คือ การศึกษาในธุรกิจที่จะทำการวิจัยดังนั้นจึงควรที่จะเข้าไปศึกษาในธุรกิจก่อสร้างก่อนครับลองดูแนวทางนี้ก่อนหลังจากนั้นจะได้เรื่องที่น่าจะทำการวิจัย ผมอยากให้ทำอย่างนี้ก่อนจึงจะพิจารณาหัวข้อวิจัยได้ดีครับ
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

@ ขอเรียนถามเรื่องการประเมิน
อาจารย์ดนัย ที่นับถือขณะนี้ ดิฉันกำลังทำ IS เรื่องเกี่ยวกับสมรรถนะ ในแบบสอบถามมีการประเมินโดยใช้ หัวหน้าประเมิน ตนเองประเมิน เพื่อนร่วมงานประเมิน อย่างนี้จะเป็นการประเมินกี่องศา และจะหาหนังสืออะไรสนับสนุน เพราะปัจจุบันใช้หนังสือ การประเมินระบบ 360 feedback. ของอาจารย์อ้างอิง แต่อาจารย์ไม่ได้บอกรายละเอียดในการประเมิน 90 ,180 องศานับถือสุจิตรา ผ่องผดุง"sujitra pong" sujitra_pong@hotmail.com
ตอบ การทำวิจัยในเรื่องการประเมินระบบ 360 องศา ผมเชียร์ให้ทำครับเพราะในเมืองไทยมีการทำและใช้ยังไม่ถูกต้องอยู่เยอะสำหรับข้อเท็จจริงการประเมินที่บอกเป้นองศานั้นเป็นการสมมติตามทิศ มิติ หรือ ความสัมพันธ์ของการประเมินเช่นประเมิน 1 มิติ คือ การประเมินแบบ Topdown ประเมิน 2 มิติ คือ การประเมิน แบบ Two-wayหรือ การประเมิน Upward คือ การที่ลูกน้องประเมินผู้บังคับบัญชาการประเมินตนเอง คือ Self-Evaluationการประเมิน แบบรอบมิติ หรือหลายทิศทาง คือ Multi-sources rater ที่เมืองไทยเรียกว่า 360 องศา ละครับสรุปแล้วการประเมิน ถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่าการประเมินตามแหล่งผู้ประเมิน น่าจะถูกต้องกว่าที่จะไปเรียกว่าประเมิน กี่องศาซึ่งถ้าศึกษาตามที่ผมบอกจะมีข้อมูลมากทีเดียวครับ
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

@ เรียน อาจารย์ดนัย ที่เคารพดิฉันเคยเรียนถามอาจารย์ เรื่องการประเมิน 90 ,180 และ 360 องศา มาแล้ว อยากขอคำแนะนำจากอาจารย์เรื่องชื่อหนังสือค่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัด
นับถือ
สุจิตรา ผ่องผดุง
"sujitra pong"
ตอบ เรียนคุณสุจิตราเรื่องชื่อหนังสือ เช่น
1.The Handbook of Multisource Feedback (2001) by David W.Bracken and others.2.Performance Management (1994) by Michael Armstrong (ผมเห็นมีพิมพ์ครั้งใหม่แล้ว)
3.Managing & Measuring Employee Perormance (2006) by Houldsworth and Jirasinghe
หากหาหนังสือยากผมคิดว่าในฐานข้อมูลออนไลน์ ของ Emerald (WWW.EMERALDINSIGHT.COM) จะช่วยได้มากครับถ้า มหา'ลัย เป็นสมาชิกอยู่
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

@ เรียน อาจารย์ดนัย ที่เคารพคือผมเป็นคนที่มีความสนใจส่วนตัวในเรื่องของการตลาด ที่ผมอยากได้ไอเดียใหม่จากอาจารย์ คือ ผมสังเกตเห็นรายการโทรทัศน์ในปัจจุบันพบว่ากระแสรายการโทรทัศน์ที่ทำยากที่สุดในความคิดของผมคือ รายการธรรมะ เพราะมันออกจะเป็นรยาการแบบEducation ผมจึงอยากให้อาจารย์ช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ถ้าจะสร้างรายการธรรมะรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองกับคนทุกวัย ไม่น่าเบื่อ ผมควรจะมีสิ่งใดที่แตกต่างจากรายการธรรมะทั่วไปในปัจจุบันดีครับ
สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุลmurder_doll@hotmail.com
ตอบ เรียนคุณสุทธิศักดิ์น่าสนใจมากครับที่จะสร้างรายการธรรมะในรูปแบบใหม่ก่อนอื่นผมเองได้มีโอกาสดูรายการธรรมอยู่บ้างและล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 27 มค.50 ได้เห็นรายการธรรมะ ตอน ตี่หนึ่งกว่า ๆ ซึ่งทำให้สงสัยว่าใครจะเปิดดู หรือ มีกลุ่มพิเศษที่สนใจดูประการแรก ถ้าคิดในเชิงการตลาดผู้บริโภคสนใจหรือเชื่อผู้ที่เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล เช่นดารา คนดัง ผู้นำประเทศที่เป็นที่ยอมรับ ว่าไม่โกงและทำร้ายประเทศชาติตนเองทั้งในทางลับและทางแจ้งหรือ พระที่มีความสามารถทั้งทางธรรม และทางเทศน์ดังนั้นการเลือกผู้ที่จะมานำเสนอต้องจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้
1.เป็นผู้ที่มีอิทธิพล ต่อผู้ดูรายการธรรมะ
2.ต่อมา การคิดออกนอกกรอบ คือ ผู้ที่มาพูดหรือสนทนาธรรม จึงไม่จำเป็นต้องเป็น พระ หรือ แม่ชี เสมอไปยกเว้นว่าเป็นระดับดาราจริงๆ (ติดตลาด) เช่น พระพยอม ท่านเจ้าคุณวัดสุทัศน์ ฯลฯเนื่องจากพอเปิดเจออะไรสีขาว ๆ หรือเหลือง ๆ เราก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องแล้ว
3.ถ้าเปลียนการแสดงธรรมเป็นการ สนทนาธรรม โดยคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ และเป็นที่ยอมรับ คล้าย ฟอรัมการสัมมนา ดูจะน่าสนใจกว่ารูปแบบแสดงธรรม ทางทีวีที่เห็น
ประการสำคัญ วิธีการใหม่ในการนำเสนอคงต้องคิดในเชิงการตลาดแบบ IMC (การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ Integrated Marketing Communication ) คือ ใช้ทุกรูปแบบของการสื่อสารการตลาด เช่น Direct marketing Event marketing PR etc
ผมได้ดูรายการ Discovery ที่ไปศึกษาวิธีการเผยแพร่พุทธศาสนาของวัดเส้าหลิน ซึ่งเมืองไทยน่าจะทำได้
-เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินจะมีการเดินสายไปบรรยายทั่วโลก ในเรื่อง กำลังภายในและมวยจีนของวัดที่โด่งดังและสอดแทรกการสอนธรรมไปด้วย
-คนทั่วโลกรู้จักวัดเส้าหลินเพราะมวยจีน หรือ กังฟู ในความจริงคือ การปฎิบัติธรรม และทำสมาธิ ดังนั้นทำอย่างไรจะให้คนสนใจจึงไปจ้างนักเขียนการ์ตูน ชาวไต้หวัน มาวาดภาพการ์ตูนกังฟูของวัดเส้าหลิน แล้วทำเป็นหนังการ์ตูนเผยแพร่ ยิ่งทำให้ วัดเส้าหลินโด่งดังมีคนสนใจมาเยี่ยมชมและบริจาคมากขึ้น
-วัดเส้าหลินใช้วิธีการเผยแพร่ศาสนาและมวยกังฟูวัดเส้าหลิน โดยทำในรูป แฟรนไชส์ คือ รูปแบบคล้าย 7-11 ไปทั่วโลก ประการสุดท้ายสำหรับประเทศไทยเราเผยแพร่ศาสนาอย่างตามบุญตามมี
-ซึ่งจะอยู่ที่เจ้าอาวาส และศรัทธา จะทำอะไรก็ว่ากันไป เช่น วัดม่วงแถว ๆ สระบุรี ปั้น รูปเปรต เยอะไปหมด บ้างวัดก็สร้างศิลปะอลังการณ์ บางวัดก็มีกิจกรรมรำวงกลองยาวแก้บน ฯลฯ-เราไม่มีแก่นหลักที่เป็นวิชาการในการเผยแพร่ศาสนา เช่น ถ้าวัดชลประทาน หรือ สวนโมกข์พลาราม เป็นเสาหลักแห่งพุทธธรรม ในการเผยแพร่ ก็ปรับวัดต่าง ๆ ให้เป็นสาขาของวัดดัง ๆ ข้างต้นจะได้มีรูปแบบการจัดการวัดและธรรมที่มีรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ
-คงต้องกำหนดวิธีการในการเข้ามาสู่พุทธศาสนาเช่น ศรัทธาเข้ามาบวชตามประเพณี เปิดทั่วไปศรัทธาที่จะเข้ามาดำรงและสืบต่อพระพุทธศสานาต้องจบอย่างต่ำปริญญาตรีพระหรือ ผู้ที่จะเผยแพร่ธรรมะทางการสื่อสารการตลาด จะต้อง
1.มีวุฒิทั้งทางโลกและทางธรรม
2.ต้องผ่านหลักสูตร การสอน และวิธีการสื่อสารรู้จักพฤติกรรมผู้ฟัง
3.มีสถาบันทำการพัฒนา ผู้ที่ทำหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่อง และ1 และ 2 จะต้องกลับมาทบทวนในกรณีที่มีพัฒนาการใหม่
4.ต้องมีรายได้พอประมาณในการไปพัฒนาตนเองให้ก้าวขึ้นใน 3 ระดับคือ
4.1 ระดับประเทศ4
.2 ระดับภูมิภาค
4.3 ระดับนานาชาติผมอยากเห็นวันที่พุทธศาสนา สามารถดำเนินตามนี้ได้ ประเทศชาติ และมนุษยชาติคงดีกว่านี้ (ไม่ใช่เพื่อศรัทธาไปจับปืนฆ่าคน ดังทีเห็นและเป็นอยู่)
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants
*****************
ขอบคุณครับที่ให้แนวคิด
นับถือ
สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุล
***************

@ Qualification ของการเป็น HR Professional มีอะไรบ้างค่ะ โดยคุณ Keaw ตอบ ผมได้เขียนไว้บ้างใน หนังสือ การบริหารทรัพยากรบุคคลสู่ศตวรรษที่ 21 ในเรื่องที่ว่าด้วยThe Competencies Model for HR Managerถ้าจะตอบย่อ ๆ ในที่นี้
- จะต้องมีความรู้ทางด้าน HR สมัยใหม่ ที่เน้นทางด้านทุนมนุษย์
- มีพื้นฐานที่ดีทางด้าน กลยุทธ และการจัดการธุรกิจที่สามารถแปลไปสู่ HR ได้ทุกระบบ
-ความจำเป็นที่จะต้องรู้ด้าน ICT เพื่อการมาปรับใช้ในงาน HR
-คิดเชิงกลยุทธได้เพื่อมอง คนในเชิง " Strategic Player"
จึงจะสามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้าน HR ให้เกิดขึ้นในองค์กรฯลฯ
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

@ เรียนถามอาจารย์หนูกำลังเรียนโท ที่เกาหลี ด้าน Public Policy ทีนี้มี สอง สามวิชาที่ใหม่สำหรับหนูมาก เพราะไม่มีพื้นฐานมาก่อน
-Quantitative Methods
-Analysis Marketing & Public Policy
-Cultural Policyหนูจะหาอ่านหนังสือเหล่านี้ที่เป็นภาษาไทยได้จากไหนบ้างคะ แนะนำด้วยค่ะ
โดย มัดหมี่ (Princess in the Blue )
ตอบ ผมขอแนะนำว่า
-Quantitative Methods ไม่แน่ใจว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่ปกติจะเป็นวิธีการทางคุณภาพ เช่น การศึกษาหรือวิจัยทางคุณภาพ ซึ่งจะมีภาษาไทยค่อนข้างเยอะเลยครับสำหรับการศึกษาด้าน Public Policy น่าจะใช้วิธีการดังกล่าวมากกว่า Qualitative Methods
-Analysis Marketing & Public Policyภาษาไทยอาจจะหายากครับ เพราะ เป็นสิ่งที่เพิ่งพูดกันในช่วง 2-3 ปีมานี้ ผมเคยเห็นบทวิเคราะห์ในเวบไซท์ด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้พูดในเรื่อง Marketing based economy รวมถึงการกำหนดนโยบายของรัฐบาลด้วย และถ้าในเมืองไทย รัฐบาลที่แล้วใช้เรื่องนี้ เกิน ร้อย %แต่ถ้าการเมืองในสหรัฐอเมริกา จะเรียนเรื่องเหล่านี้ครับ " คงต้อง google it ครับ"
-Cultural Policy ผมคิดว่า ของเกาหลีมีให้ศึกษามากกว่าของบ้านเราครับ ลอง ค้น ในเรื่องหรือ หัวข้อ " The Korean Wave " ของเกาหลีดูครับ เพราะ เขาเรียกว่าหรืออ้างว่าเป็นวัฒนธรรมใหม่ของเอเซีย
สำหรับที่น่าสนใจอีกอันคือ ของประเทสจีนใช้นโยบายด้านวัฒนธรรมผ่านทาง "สถาบันขงจื๊อ "
และส่วนใน US นั้นจะเรียกว่า Creolizationหนังสือภาษาไทยคงหายากครับ
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

@ สวัสดีค่ะ ท่านดร.ดนัย เทียนพุฒดิฉัน อยากทราบการทำธุรกิจแบบดีพาร์ทเมนต์สโตร์ค่ะ ว่ามีหลักการอย่างไร และในปัจจุบีนนี้การแข่งขันรุนแรงมากน้อยเพียงใด และลักษณะการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
โดย muaylek

ตอบ จากประสบการณ์ของผมในการทำงานกับธุรกิจค้าปลีก (ห้างสรรพสินค้า ค้าส่ง ค้าปลีก ร้านโชห่วย ฯลฯ )หลักการสำคัญ 3 อย่างแรก คือ
-สิ่งแรกต้องมีความเข้าใจในธุรกิจที่ทำซึ่งก็มีหลายรูปแบบทั้ง ห้างสรรพสินค้า(Department Store) ค้าส่ง ( Whole sales) Supercenter/DiscountStore Food Center Speciality Store / Category Killer Convenience Store/G-Store etc.
-เราจะเข้าไปทำในส่วนตรงไหนของ ซัพพลายเชน แต่ที่สำคัญมากต้องเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ อาจจะมาจากครอบครัว เคยทำงานในธุรกิจนี้มาก่อน หรือ ร่ำเรียนมาโดยตรง
-สิ่งสุดท้ายแต่สำคัญมาก จะทำด้วยBrand ของตนเอง หรือ อาศัย Global Brand หรือ Chain Store ที่ดังติดตลาดอยู่แล้ว
ส่วนที่สำคัญรองลงมา คือ 5'Ms ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วครับ"สภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก( Retailing ) "ต้องบอกว่าในปัจจุบันสูงมาก หน้าใหม่ที่จะเข้ามาแข่งขันได้คงต้องเป็นยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศเท่านั้นส่วนผ้ประกอบการไทยที่อยากทำธุรกิจนี้ คงต้องอาศัย Chain Store หรือ Brand ของเจ้าที่ดัง ๆ แล้วเท่านั้น หรือไม่ก็เป็น โชห่วยในซอยลึก ๆ ในหมู่บ้านไกล ๆ ในคอนโด หรือ อพาทเมนต์การดำเนินงานเป็นเรื่อง "ง่าย ๆ ซื้อมาถูก ๆๆ ขายปริมาณมาก ๆ ๆๆ หมุนเวียนเร็ว ๆๆๆ"
ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

1 comment:

Unknown said...

สวัสดีค่ะ อาจารย์
ตอนนี้หนูต้องทำรายงานเกี่ยวกับ การประยุกต์ใช้ Balanced Scorecard กับ ธุรกิจค้าปลีก ค่ะ
จึงอยากรบกวนอาจารย์ให้แนะนำแนวทางหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ