August 17, 2008

ปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์นำธุรกิจเหนือชั้น

ปัจจุบันเราจะพบว่าใครก็ตามที่สามารถพูดศัพท์ใหม่ๆ หรือหยิบแนวคิดจากตำราทั้ง Textbook และ How-To ที่เป็นเล่มใหม่ๆ มาพูดได้ก่อนคนอื่นๆ ดูท่าทางจะถือว่าเป็น คนทันสมัย ถ้าหยิบศัพท์สมัยก่อนที่พูดถึงสิ่งนี้คือ "ศิวิไลซ์" นั่นเอง

ผู้เขียนเชื่อว่า พัฒนาการของการจัดการธุรกิจคงจะมีอยู่อย่างต่อเนื่องและตลอดไปเพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่มีวันยอมแพ้กับปรากฎการณ์ของธรรมชาติและโชคชะตาอย่างแน่แท้

เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วเราเริ่มได้ยินเสียง "กบกระโดด" หรือ "ก้าวกระโดด" กันหนาหูขึ้น หรือ "Leapfrog Strategy" คือ กลยุทธกบกระโดด (มีคนพูดกันมากขึ้นทั้งๆ ที่พูดผิดก็มี เขียนผิด ก็มีตามหน้าหนังสือพิมพ์แต่ถ้าไม่พูดเลยก็คงดูว่าจะไม่ศิวิไลซ์)

การก้าวกระโดดทางธุรกิจคงต้องมีปัจจัยอยู่หลายๆ ประการด้วยกัน เช่น
การใช้เทคโนโลยีมาเป็นกลยุทธก้าวกระโดด แต่ก็มีคำถามตามมาว่า จะใช้เทคโนโลยีอะไรในการก้าวกระโดดหรือถ้ามีเทคโนโลยีนั้นอยู่ก็สามารถนำไปสู่การก้าวกระโดดได้
การใช้เครื่องมือทางการจัดการมาเป็นกลยุทธก้าวกระโดด ประเด็นนี้น่าสนใจเพราะ คงไม่ยากเท่ากับการหาเทคโนโลยีมาใช้เป็นกลยุทธก้าวกระโดด แต่ที่สำคัญ "เครื่องมือทางการจัดการ" อะไรจะช่วยให้ธุรกิจหรือประเทศชาติก้าวกระโดดได้

อย่างไรก็ตามจะพบว่า ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือทางการจัดการมาเป็นกลยุทธ ก้าวกระโดด จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือเหนือชั้นที่สำคัญยิ่งคือ "การวิจัยและพัฒนา" (R&D: Research and Development)
การอ่านตำรา-ฟังเขาเล่าว่า-ยังไม่ถึงขั้นเป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยการวิจัย
และไม่สามารถนำไปสู่ การเป็นองค์กรแห่งความรู้ได้ (KBO: Knowledge Based Organization)


ดังนั้นข้อสรุปสำคัญในปัจจุบันที่จะสร้างให้ธุรกิจมียุทธศาสตร์/กลยุทธนำอย่างเหนือชั้น สามารถทำได้ 2 รูปแบบด้วยกันคือ
(1) กลยุทธการสร้างคุณค่า (Value Creation Strategy) หมายถึง การให้ความรู้ การอ่านตำรา-ฮาว์ทู-การฟังเขาเล่าว่า หรือการชะโงกไปดู (ศึกษา-ดูงาน) บางชั่วขณะของธุรกิจ สิ่งเหล่านี้เป็นกลยุทธการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ
(2) กลยุทธการดึงคุณค่า (Value Extraction Strategy) หมายถึง การแสวงหาวิธีการดึงความรู้หรือสิ่งที่อยู่ในตัวมนุษย์ออกมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ สิ่งนี้เป็นขั้นที่สูงกว่า การสร้างคุณค่าเพราะทำยากกว่า การศึกษาจากธุรกิจชั้นเลิศ (Best Practices) เป็นขั้นสูงของ การสร้างคุณค่า แต่เป็นลำดับต้นของกลยุทธการดึงคุณค่าของธุรกิจ ซึ่งหากมีการพัฒนารูปแบบ ที่เหมาะสมจะดึงคุณค่าของคนทำงานที่มีภูมิรู้ (Knowledge Worker) ได้ดีที่สุดรูปแบบหนึ่ง (แสดงว่ายังมีรูปแบบอื่นอีก-การเขียนสมุดความรู้ (Knowledge Portfolio)

สรุปแล้ว คำว่า "ปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์นำธุรกิจเหนือชั้น" เป็นรูปแบบหนึ่งของกลยุทธการดึงคุณค่าจากทุนมนุษย์หรือคนทำงานที่มีภูมิรู้ออกมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจจนทำให้ธุรกิจก้าวกระโดดไปสู่การแข่งขันที่ดีกว่าหรือเหนือชั้น
ฉะนั้นความสำคัญของกลยุทธสร้างและดึงคุณค่านี้แม้ธุรกิจจะสามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบแต่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ใช้สิ่งที่ยากคือ กลยุทธดึงคุณค่า (Value Extraction Strategy) เพราะอะไรที่ยากจะนำมาสู่ความสำเร็จที่เหนือชั้น







4 อาวุธลับองค์กร Balanced Scorecard

ด้วยประสบการณ์ในด้านจัดการกลยุทธ (Strategic Management) ทั้งการคิดเชิงกลยุทธ (Strategic Thinking) การวางแผนกลยุทธ (Strategic Planning) การนำกลยุทธไปปฏิบัติ (Strategic Implementation) และการวัดผลกลยุทธ (Strategic Measurement)
ในตลอดช่วง 10 ปีภายใต้การใช้แนวคิดของ การประเมินองค์กรแบบสมดุล (BSC: The Balanced Scorecard) และดัชนีวัดผลสำเร็จธุรกิจ (KPIs: Key Performance Indicators)


ผู้เขียนได้เรียนรู้ ศึกษา ตลอดจนทั้งสร้างและดึงคุณค่าจากทั้งธุรกิจ ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งตัวผู้เขียนเองออกมาเป็นผลงานทางวิชาการด้าน BSC & KPIs ทั้ง3 ภาคคือ ภาคที่ 1 โมเดล KPIs เพื่อ Benchmarking ภาคที่ 2 BSC เวอร์ชั่น 3.0 และ ภาคที่ 3 คิดเชิงกลยุทธ
ขณะเดียวกันผู้เขียนก็ยังได้เพิ่มประสบการณ์ด้าน BSC อยู่อย่างต่อเนื่องในรูปแบบของการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ จนกระทั่งเห็นว่าควรสรุป บทเรียนที่เป็นเลิศ (Best Practices) ของการประเมินองค์กรแบบสมดุล (BSC) ออกมาสู่ธุรกิจให้ได้เรียนรู้ว่าธุรกิจที่ดำเนินการ BSC & KPIs ในรูปแบบที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของธุรกิจในโลกตะวันออกแล้ว รูปแบบที่นำไปสู่ความสำเร็จนี้เป็นอย่างไร




ดังนั้น 4 อาวุธลับขององค์กร Balanced Scorecard ที่เป็นบทเรียนที่เป็นเลิศ
(Best Practices) จึงนำเสนอในระบบ Scorecard 4 ด้านด้วยกันคือ 1) CEO Scorecard
2) Agenda Based Scorecard 3) Marketing Scorecard และ 4) HR & Competency
Scorecard




ซึ่งในการจัดทำ Balanced Scorecard ตามบทเรียนที่เป็นเลิศ (Best Practices)
ทั้ง 4 ด้านจะทำให้ธุรกิจมี 4 อาวุธลับใหม่ที่มุ่งไปสู่ "ปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์นำธุรกิจเหนือชั้น"
(คู่แข่งขัน)



ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

No comments: